ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ Conficker
ชื่อที่คุ้นหู Conficker , Downandup , Kido เป็นหนอนที่แพร่กระจายตัวเองโดยโจมตีผ่านช่องโหว่ Windows Server service (SVCHOST.EXE) ของระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์วินโดว์ รายละเอียดติดตามได้ที่ http://www.thaicert.nectec.or.th/advisory/alert/conficker_r.php
เมื่อติดหนอนชนิดนี้แล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เครื่องแม่ข่ายที่ทำหน้าที่เป็นโดเม็น จะเกิดภาวะ Over Load คือ ไม่สามารถรองรับการเรียกใช้งานของเครื่องลูกข่ายได้ สืบเนื่องมาจากหนอนชนิดนี้จะสร้าง Connections จำนวนมาก
วิธีสังเกตุการติดเชื้ออย่างง่ายคือ
- คลิ๊กที่ start –> accessories –> system tools –> scheduled tasks จะสังเกตุเห็น tasks ที่ขึ้นต้นด้วย At
- ที่ Task Manager จะสังเกตุการทำงานของ Process ที่ชื่อ rundll32.exe จำนวนมาก
- ที่เบราเซอร์ จะไม่สามารถเข้าเว็บไซต์ที่เป็นระบบ https และเว็บไซต์เกี่ยวกับ antivirus รวมไปถึงเว็บไซต์ของ microsoft ด้วย
เมื่อมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 3 อาการข้างต้นนี้ ขอให้แน่ใจได้เลยว่า เครื่องของท่านอาจจะมีหนอนชนิดนี้ฝังตัวอยู่ในเครื่องแล้ว การแก้ไขปัญหาของหนอนชนิดนี้ ค่อนข้างยุ่งยากพอสมควร เพราะหนอนอาศัยการทำงานผ่านระบบเครือข่าย ที่สำคัญดังนี้
- แชร์ไฟล์ โดยไม่ใส่รหัสผ่าน หรือรหัสผ่านคาดเดาได้ง่าย
- ตั้งรหัสผ่านของ Administrator หรือผู้ที่ถือสิทธิของ Administrator ง่ายเกินไป
- ฐานข้อมูลของ Antivirus เป็นรุ่นเก่า
- การใช้งาน Flash Drive อย่างไม่ระมัดระวัง
ขั้นตอนการกำจัดหนอนชนิดนี้ ฉบับราชมงคลล้านนา (เฉพาะ ระบบปฏิบัติการ windows 2003 server 32 และ 64 bit) คือ
- ดาวน์โหลด patch และ Fix tools ที่นี่ [download id=”4″] (เฉพาะ kb890830 และ kkiller ให้ดาวน์โหลดเวอร์ชั่นล่าสุดจากเว็บไซต์เจ้าของผลิตภัณฑ์)
- หรือตรวจสอบไฟล์ KB ดังต่อไปนี้ที่เว็บไซต์ Microsoft อีกครั้ง
- KB957097
- KB958644
- KB958687
- kb890830 ** สำหรับสแกนไวรัส ในเว็บ noc.rmutl.ac.th นี้เวอร์ชั่น 2.8
- KKiller.exe ในเว็บ noc.rmutl.ac.th นี้เวอร์ชั่น 3.4.4
- หรือตรวจสอบไฟล์ KB ดังต่อไปนี้ที่เว็บไซต์ Microsoft อีกครั้ง
- ทำการแตกไฟล์ไว้ตำแหน่งที่สังเกตุเห็นได้ชัด
- ตรวจสอบดูว่า ระบบปฏิบัติการที่ใช้เป็น 32 หรือ 64 bit
- ให้หยุดการทำงานของ antivirus ในเครื่อง เพื่อป้องกันการรบกวนการทำงานของซอฟต์แวร์ตัวอื่น **สำคัญมาก
- ยกตัวอย่างว่าเป็น 64 bit ขั้นตอนแรก ให้คลิ๊กที่ ไฟล์ KKiller.exe
- ทำการสแกนหนอนอีกครั้งด้วยเครื่องมือของไมโครซอฟต์ที่ชื่อว่า windows-kb890830-x64-v2.8.exe (เจอหรือไม่เจอไวรัส ก็ไม่เป็นไรครับ)
- ให้ทำการติดตั้ง patch (เลือกว่าเป็น 32 หรือ 64 bit) ให้ครบทั้ง 3 ตัว เพื่ออุดช่องโหว่ที่หนอนใช้ในการติดต่อ
- รีสตาร์ทเครื่องทันที
- เมื่อรีสตาร์ทเครื่องมาแล้ว ให้หยุดการทำงานของ Antivirus ในเครื่อง
- ใช้ Antivirus Online ในการตรวจสอบอีกครั้ง (เลือกตัวใดตัวหนึ่งก็ได้ แต่ผมเลือก kaspersky ขนาดประมาณ 50 Mb)
- Kaspersky
- Trend Micro
- Bitdefender ** ติดตั้งที่เครื่องแม่ข่าย ล็อกอินด้วยผู้ใช้ที่มีสิทธิ Administrator แล้วสั่งสแกนทั้งระบบ รวมไปถึงเครื่องลูกข่ายที่ Join Domains ด้วย
- ให้ทำการเปิดระบบ Automatic update และทำการ update ระบบปฏิบัติการทันที
- ทดสอบว่ายังมีอาการผิดปกติดังที่แจ้ังไว้ขั้นต้นหรือไม่ หากไม่พบแล้ว แสดงว่า ได้กำจัดหนอนชนิดนี้ออกจากเครื่องเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องคอยดูแลอีกซักระยะ เพื่อไม่ให้กลับมาติดอีก
** หวังว่า คงช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้นะครับ