วิธีแก้ปัญหา /boot เต็ม

ubuntu-logo112โดยทั่วไปแล้วลีนุกซ์มักจะดำการติดตั้ง Boot Loader หรือ Kernel ไว้ที่ /boot เพื่อแยกพื้นที่ในการจัดเก็บและป้องกันการลบข้อมูลโดยไม่เจตนา แต่บ่อยครั้งที่การติดตั้งแบบอัตโนมัติ มักจะแบ่งพื้นที่ของ /boot ไว้น้อยเกินไป การอัพเกรด Kernel ตามเวอร์ชั่นการอัพเกรดของลีนุกซ์จึงทำให้ /boot เต็มอยู่บ่อยๆ และในบางครั้งผู้ใช้งานอาจจะเผลอทำการลบ Kernel เวอร์ชั่นล่าสุดโดยไม่ได้ตั้งใจ หากไม่ทำการลบ Kernel เก่าออกไปก็จะทำให้ติดตั้ง Kernel ใหม่ไม่ได้

2015-04-02_11-29-22รูปที่ 1 แสดงวิธีการตรวจสอบขนาดของพาร์ติชั่นต่างๆ โดยใช้คำสั่ง “df -h”

กระบวนการสร้างไฟล์สำหรับการลบ Kernel เก่ามีดังนี้

1. สร้างไฟล์ที่ชื่อว่า remove-old-kernet.sh (หรือจะตั้งชื่ออื่นก็ได้ครับ)

2. เพิ่มข้อมูลในไฟล์ดังต่อไปนี้

apt-get purge $(dpkg -l ‘linux-*’ | sed ‘/^ii/!d;/'”$(uname -r | sed “s/\(.*\)-\([^0-9]\+\)/\1/”)”‘/d;s/^[^ ]* [^ ]* \([^ ]*\).*/\1/;/[0-9]/!d’ | head -n -1)

3. จากนั้นบันทึกแล้วออกจากไฟล์ แล้วให้เปลี่ยนสิทธิ์ของไฟล์ให้สามารถ Execute ได้ โดยใช้คำสั่ง chomod

chmod 755 remove-old-kernel.sh

4. สั่งรันไฟล์ ด้วยสิทธิ์ของ Root  (หรือจะใช้ sudo ก่อนก็ได้ครับ)

./remove-old-kernel.sh

2015-04-02_11-30-56

รูปที่ 2 แสดงรายการ Kernel ที่สามารถลบได้ ให้กด “y” เพื่อยืนยันการลบ

2015-04-02_11-33-17

รูปที่ 3 แสดงรายชื่อ kernel ที่มีอยู่ในค่าคอนฟิกของ Grub ตัวเลขมากสุดหมายถึง kernel ล่าสุด

5. ตรวจสอบขนาดของพาร์ติชั่น จะสังเกตุได้ว่ามีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว

2015-04-02_11-34-28

รูปที่ 4 แสดงขนาดของพาร์ติชั่นและการตรวจสอบ Kernel ที่ใช้ในปัจจุบัน

**การลบ Kernel ใดๆ อาจจะส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบ ควรพิจารณาโดยละเอียดว่า Kernel ที่ลบไปนั้น ไม่ส่งผลต่อการทำงานโดยรวมของระบบ




Linux Terminal Server Project

Linux Terminal Server Project
เป็นโครงการที่พัฒนาระบบแม่ข่าย Linux เพื่อให้รองรับการบริการผ่านเทอมินอล โดยเครื่องเทอมินอลสามารถจะใช้บริการโปรแกรมต่าง ๆ จากเครื่องแม่ข่าย ผ่านเครื่องเทอมินอลได้ โดยการประมวลผลจะประมวลผลที่เครื่องแม่ข่ายทั้งสิ้น

ซึ่งทำให้ประหยัดทรัพยากรด้านฮาร์ดแวร์ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งขั้นตอนการติดตั้งไม่ยาก จึงทำให้ได้รับความนิยมอย่างมาก

การติดตั้งสามารถทำได้ตามขั้นตอนดังนี้ (PDF)

ดาวน์โหลดคู่มือการติดตั้งได้ที่นี่ [download id=”31″]




ใช้ Grave บน Mint amd64

graveมันติดมือไปแล้วสำหรับคนที่พิมพ์ดีดแบบสัมผัส คือมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ปุ่ม Grave ในการสลับภาษาไทย-อังกฤษ (ตอนเรียนพิมพ์ดีดมันไม่มีปุ่ม Alt+Space ) ตอนใช้วินโดว์ก็ใช้ Grave ตลอด แต่พอมาใช้กราฟฟิคของ Linux (mint7 หรือเทียบได้กับ ubuntu 8.10) ก็พบว่า ปุ่ม Grave นั้น จำเป็นต้องใช้งานเหมือนกัน ส่วนใหญ่เลยเปลี่ยนไปใช้ปุ่มอื่นแทน แต่เพราะความเคยชิน เลยต้องหาวิธีที่จะใช้ปุ่ม Grave ให้ได้

โลก Open Source ย่อมมีการแบ่งปันเสมอ ในที่สุดก็เจอแพ็คเก็จสำหรับเปิดใช้งานปุ่ม Grave แล้ว ชื่อว่า xkb-data-grave.deb ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้จากที่นี่ แต่เดี๋ยวก่อน นั่นมันเป็นแพ็คเก็จสำหรับ i386 พูดง่าย ๆ ก็คือ 32 bit นั่นเอง เมื่อจะนำมาใช้กับ 64 bit หรือ amd64 นั้น มันไม่สามารถติดตั้งได้ (ความจริงอาจจะมีแพ็คเก็จสำหรับ amd64 นะ แต่ผมหาไม่เจอครับ) ถ้าพยายามติดตั้งมันจะฟ้องแบบนี้ครับ

grave00

จึงต้องใช้วิธีแบบชาวบ้านนิดหน่อย โดยได้ทำการแตกไฟล์แล้วก๊อปเอาไฟล์ข้างในไปวางไว้ในโฟลเดอร์ที่ถูกต้อง (จะแตกไฟล์เองก็ได้ครับ หรือจะดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ [download id=”29″]) ในที่นี้ผมจะใช้จากไฟล์ที่ผมได้ทำการแตกไฟล์ไว้แล้วนะครับ

เมื่อดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บนี้มาแล้ว ชื่อไฟล์ grave-key.tar.gz ทำการแตกไฟล์ออกมาจะมีโฟลเดอร์ที่ชื่อว่า grave-key ให้เข้าไปยังโฟลเดอร์นั้น และให้รันไฟล์ script.sh ด้วยสิทธิของ root หรือจะสั่งจาก Terminal ก็ได้ครับ ดังนี้

Screenshot-grave-key - File Browser

1. เปิด Terminal ขึ้นมา แล้วเปลี่ยนสิทธิเป็น Root โดยใช้คำสั่ง   su –   แล้วใส่รหัสผ่านของท่านเองครับ

2. เข้าไปยังโฟลเดอร์ grave-key (ของผมอยู่ที่ Desktop) ก็จะเป็น   cd /home/teppap/Desktop/grave-key/    ** teppap คือชื่อ user

3. เป็นสิทธิของไฟล์ script.sh ให้สามารถทำงานได้ โดยใช้คำสั่ง chmod 755 script.sh

4. สั่งให้ไฟล์ Script ทำงาน โดยใช้คำสั่ง ./script.sh

Screenshot-Terminal

5. เข้าไปแก้ไขค่าของคีย์บอร์ด โดยไปที่ menu –> Control Center –> Keyboard –> Layouts –> Layouts Options

Screenshot-Keyboard Preferences

ุ6. เข้าไปเช็คบ็อคในส่วนของ Grave switches layout

Screenshot-Keyboard Layout Options

7. ทดสอบใช้งานครับผม (ซึ่ง ณ ปัจจุบันผมก็ใช้ linux mint 7 amd64 อยู่ครับ จะเปลี่ยนมาใช้ mint 8 ละแต่ยังไม่เปิดให้โหลดครับ)